วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554

ซอฟท์แวร์


เมื่อคุณรู้แล้วว่าต้องการ Import ข้อมูลอะไรบ้าง ขั้นต่อไปคือการจัดรูปแบบและกำหนดลำดับการเรียงของข้อมูลให้ตรงกับรูปแบบที่ซอฟท์แวร์กำหนดไว้ ในกรณีที่ข้อมูลที่คุณนำมา Import ไม่มีข้อมูลบางอย่างที่จำเป็นในการ Import ให้คุณ
ใส่ค่าที่ต้องการลงไปแทน โดยคุณอาจะใช้ Microsoft Excel ช่วยในการจัดเตรียมไฟล์ Import ได้ง่ายขึ้น
ในกรณีที่คุณต้องการนำไฟล์ที่ได้จากซอฟท์แวร์อื่นๆ มา Import เข้าระบบ CRM คุณควรปรับรูปแบบของไฟล์ที่ได้จากซอฟท์แวร์อื่นให้ตรงกับรูปแบบของซอฟท์แวร์ CRM ได้กำหนดไว้ ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถนำไฟล์ที่ได้จากซอฟท์แวร์อื่นๆ มา Import เข้าระบบ CRM ในครั้งต่อไปได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องจัดรูปแบบใหม่ซ้ำอีก
อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องพิจารณาด้วยคือ ข้อมูลที่คุณ Import ซ้ำกับข้อมูลที่มีอยู่แล้วในระบบหรือไม่ ถ้ามีจะทำงานอย่างไร เช่น จะไม่ให้ข้อมูลซ้ำเข้าระบบเลย หรือจะยอมปล่อยให้ข้อมูลที่ซ้ำเข้าไปในระบบก่อน แล้วค่อยใช้เครื่องมืออื่นในการจัดการข้อมูลที่ซ้ำภายหลัง ดังนั้นคุณควรหาวิธีเตรียมข้อมูลให้มีโอกาสซ้ำน้อยที่สุดเพื่อลดเวลาใน Import และลดเวลาที่เสียไปในการตรวจสอบความซ้ำซ้อนของข้อมูลภายหลัง

วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554

ซอฟท์แวร์

ซอฟท์แวร์สำหรับงานสำนักงานที่คุณสามารถใช้งานได้ โดยที่ไม่ต้องจ่ายคังค์ OpenOffice.org เป็นซอฟท์แวร์ ฟรีที่คุณนั้นสามารถที่จะดาวน์โหลดมาใช้งานได้จากอินเตอร์เน็ต ซึ่งตัวโปรแกรมนั้นจะประกอบไปด้วย ซอฟท์แวร์ที่สามารถใช้สร้างงานเอกสารต่าง ไม่ว่าจะเป็นเอกสารที่เป็นข้อความ กระดาษคำนวญ การนำเสนอสไลด์ และงานฟรีเซนเตชั่น หรือแม้กระทั่ง การวาดภาพ ซึ่งตัวโปรแกรมนี้ถูกพัฒนา ขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่สามารถซื้อ ชุดโปรแกรมสำเร็จรูปของบริษัทไมโครซอฟท์ มาใช้งานได้อาจจะเนื่องมาจากว่าราคาที่แพงมาก นั่นเอง โดยตัวโปรแกรม โอเพ่นออฟฟิศนี้ได้มีการร่วมมือกันระหว่างโปรแกรมเมอร์ที่มีการ รวมตัวกันเพื่อสร้างโปรแกรมแบบโอเพ่นซอร์สหรือเปิดเผยรหัสนี้ออกมาให้เราสามารถใช้งานกันได้อย่างฟรีๆ  ตัวซอฟแวร์ตัวนี้ใช้ภาษา C++ ในการเขียนและมีลิขสิทธิ์ การใช้งานแบบ  LGPL และ  SISSL .ซอฟแวร์ตัวนี้สามารถที่จะใช้งานได้บน เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฎิบัติการ วินโดวส์ ทุกเวอร์ชั่น ลินุ๊กซ์ และ แมคโอเอสได้อีกด้วย อาจจะมีคำถามว่าทำไมต้องใช้โอเพ่นอฟฟิศตัวนี้ด้วย โดยข้อดีของซอฟท์แวร์ตัวนี้นั้นมีข้อดีจำนวนมากซึ่งประสิทธิภาพนั้นอาจจะยังสู้ โปรแกรมสำเร็จรูปของไม่โครซอฟท์ได้ทุกฟังก์ชั่นแต่ ในอนาคตมีการพัฒนามากขึ้นเรื่อบๆและฟังก์ชั่นต่างๆนั้นก็มีการเพิ่มเติมมาอยู่อย่างต่อเนื่องดังนั้นไม่ต้องกังวลในเรื่องความสามารถของซอฟแวร์ตัวนี้ เนื่องจากว่าซอฟแวร์ตัวนี้เป็นซอฟท์แวร์ทางเลือกที่ทำให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานไฟล์ที่สร้างขึ้นจาก ซอฟท์แวร์ชุดนี้กับซอฟท์แวร์ของไมโครซอฟท์ได้ทันที ด้วยข้อดีที่มีมากขนาดนี้ แถมยังฟรีอีกดุณสามารถดาวน์โหลด ซอฟท์แวร์ตัสนี้ได้

ซอฟท์แวร์



 ซอฟท์แวร์ หมายถึง โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เป็นชุดคำสั่งที่ควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
ซอฟท์แวร์ระบบ ( System Software) เป็นซอฟท์แวร์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดต่อสั่งงานอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้น และทำหน้าที่ประสานงานกับซอฟท์แวร์ประยุกต์ทั้งระบบ ตัวอย่างของซอฟท์แวร์ระบบ ได้แก่ Windows, Mac OS, Unix และ Linux เป็นต้น
ซอฟท์แวร์ประยุกต์ (Application Software) เป็นซอฟท์แวร์สำเร็จรูปที่เขียนขึ้นเพื่อประยุกต์ใช้งานในด้านต่าง ๆ เช่น พิมพ์เอกสาร นำเสนองาน และคำนวณ หรือเพื่อใช้งานเฉพ าะด้าน ตัวอย่างได้แก่ Microsoft Word, Adobe Photoshop และ Macromedia Dreamweaver เป็นต้น
ซอฟท์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับการสืบค้นสารสนเทศที่สำคัญมี 2 โปรแกรม ได้แก่ โปรแกรมค้นดูเว็บ และโปรแกรมอ่านเอกสาร
โปรแกรมค้นดูเว็บ ( Web Browser) เป็นซอฟท์แวร์ที่ช่วยในการอ่านเนื้อหาของเว็บเพจ โดยทำหน้าที่แปลงค่ารหัสทางคอมพิวเตอร์ ให้เป็นภาพและเสียงตามที่ผู้สร้างเว็บไซต์กำหนด ตัวอย่าง ได้แก่ Internet Explorer, Mosaic, Opera, Netscape Communicator และ Hot Java เป็นต้น
โปรแกรมอ่านเอกสาร เอกสารที่มีการเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ตมีหลายรูปแบบ รูปแบบทั่วไปที่นิยมใช้ คือ เป็น HTML , Microsoft Word และ PDF ผู้ใช้จะต้องดาวน์โหลดโปรแกรม Adobe Acrobat Reader มาติดตั้งไว้ในเครื่อง จึงจะสามารถเรียกดูแฟ้มข้อมูลในรูปแบบ PDF ได้

ซอฟท์แวร์

1. โมดูลซอฟท์แวร์ประยุกต์ทางธุรกิจ   ได้แก่ โมดูลที่ทำหน้าที่ในงานหลักของธุรกิจ เช่น การ
บริหารการผลิต การบริหารการขาย การบริหารการจัดซื้อและวัสดุคงคลัง การบริหารการบุคคล บัญชีการเงิน การบัญชีเพื่อการบริหาร
2. ฐานข้อมูลร่วม ซอฟท์แวร์ประยุกต์แต่ละโมดูลจะใช้ฐานข้อมูลร่วมกัน และจะทำการประมวลผล
ทุกๆ Transaction  แบบ Real Time และบันทึกผลลงในฐานข้อมูลร่วม  โดยซอฟท์แวร์แต่ละโมดูลสามารถเข้าถึงฐานข้อมูลเหล่านี้ได้โดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องทำ File Transfer ระหว่าง ซอฟท์แวร์เหมือนในอดีต ซึ่งทำให้ข้อมูลนั้นมีอยู่ที่เดียว องค์กรจึงสามารถมองเห็นการเปลี่ยนแปลงข้อมูลสารสนเทศ และสถานการณ์ควบคุมของกิจกรรมต่างๆได้ทั่วทั้งโซ่อุปทานขององค์กรอย่างทันทีทันใด
3. ระบบสนับสนุนการบริหารจัดการ(System Adminstration Utility)    เป็นส่วนกำหนดการใช้งาน
ของระบบ  เช่นการลงทะเบียนผู้ใช้ การกำหนดสิทธิการใช้ การรักษาความปลอดภัยข้อมูล การบริหารเครือข่าย และการจัดการฐานข้อมูล เป็นต้น
4. ระบบสนับสนุนการพัฒนาและความต้องการเฉพาะ  (Development  and Customize Utility)
เป็นส่วนสนับสนุนในการออกแบบระบบการทำงานในกระบวนการทางธุรกิจขององค์กรได้อย่าง
หลากหลายตามแบบแผนธุรกิจที่จัดไว้โดยการเลือกรูปแบบและกำหนดพารามิเตอร์ผ่านหน้าจอมอนิเตอร์ หากแบบแผนที่จัดไว้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้  สามารถจะสร้างแบบแผนเฉพาะให้เข้ากับธุรกิจของตนเองได้
ERP  ซอฟท์แวร์ได้รับการพัฒนาเพื่อให้ใช้ได้กับธุรกิจหลากหลายประเภท  และมีคุณสมบัติที่สามารถ
รองรับงานทางด้านการจัดการห่วงโซ่อุปทานและโลจีสติกส์ขององค์กร  จึงอาจกล่าวโดยสรุปได้ว่า ERP เป็นซอฟท์แวร์ประยุกต์ที่มีคุณลักษณะเน้นระบบสารสนเทศ  สำหรับการติดตาม  ควบคุม  สถานการณ์ปฏิบัติงาน  และการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่ครอบคลุมเครือข่ายโดยรวมขององค์กรอย่างเรียลไทม์  เพื่อให้ได้สารสนเทศเพื่อการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว  และมีประสิทธิภาพ
               


ซอฟท์แวร์

ระบบปฏิบัติการวินโดวส์นี้เป็นระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมสูงมากในเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ทั่วไป ทั้งนี้นอกจากจะเป็นเพราะความง่ายในการใช้งานที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังเป็นเพราะหลังจากที่บริษัทไมโครซอฟต์ได้ผลิตระบบปฏิบัติการนี้ออกสู่ตลาด ก็ได้พัฒนาซอฟต์แวร์ประยุกต์ที่สามารถใช้งานบนระบบปฏิบัติการนี้ขึ้นหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์แวร์ในกลุ่มซอฟต์แวร์ประมวลคำ ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน หรือซอฟต์แวร์นำเสนอข้อมูล ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานของผู้ใช้ในทุกๆ ด้าน ทำให้เกิดการใช้งานที่แพร่หลาย นอกจากนี้ยังได้มีการพัฒนาระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ๆ ที่สนับสนุนการใช้งานกับเทคโนโลยีใหม่ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วินโดวส์ 3.0 (Windows 3.0) ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่ทำงานบนเครื่องเดียว พัฒนาเป็นรุ่นหรือเวอร์ชั่น (version) ที่สามารถทำงานเป็นกลุ่มหรือเครือข่ายภายในองค์กรที่ใช้ทรัพยากรร่วมกันได้ และพัฒนาต่อมาเป็นวินโดวส์ 95(Windows 95) วินโดวส์ 98 (Windows 98) วินโดวส์ เอ็มอี(Windows ME) และพัฒนาเป็นระบบปฏิบัติการเครือข่ายที่สามารถจัดการด้านการติดต่อสื่อสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์บนเครือข่าย จัดการด้านการใช้งานอุปกรณ์ร่วมกัน และดูแลจัดสรรและรักษาความปลอดภัยของข้อมูล เช่น วินโดวส์ เอ็นที (Windows NT) วินโดวส์ 2000(Windows 2000) และวินโดวส์ เอ็กซ์พี (Windows XP) หรือแม้แต่ระบบปฏิบัติการสำหรับคอมพิวเตอร์พกพาอย่างวินโดวส์ ซีอี (Windows CE) และที่ล่าสุด คือ วินโดวส์ วิสต้า Window Vista